เคยสังเกตไหมว่าวันไหนเราแต่งตัวดีๆ เดินออกจากบ้านพร้อมความมั่นใจ วันนั้นก็มักจะเป็นวันที่ดีวันหนึ่งเลยล่ะ ไม่เชื่อลองวัดจากสายตาหลายคู่ที่โฟกัสมาที่คุณดูก็ได้ ก็เพราะความมั่นใจสำคัญแบบนี้ไง หลายคนถึงให้ความสำคัญกับการดูแลรูปลักษณ์ภายนอกเป็นพิเศษ เพื่อเสริมความมั่นใจก่อนออกจากบ้านอยู่เสมอ

สำหรับผู้ชายไอเท็มที่ช่วยเสริมลุคให้ดูดีได้ง่ายๆ ก็คือเสื้อเชิ้ต เรามั่นใจว่าหนุ่มๆ หลายคนต้องมีเสื้อเชิ้ตตัวเก่งมากกว่า 1 ตัวแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นหรือ เสื้อเชิ้ตแขนยาว ชายใดที่หยิบมาใส่ทีไรก็จะรู้สึกมั่นใจเป็นพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็เชื่อว่ามีผู้ชายไม่น้อยที่ยังกังวลเวลาใส่เสื้อเชิ้ตอยู่บ้าง ประเภทที่ว่าไม่รู้ว่าเสื้อเชิ้ตแบบไหน สีไหน ลายไหน ถึงจะเหมาะกับตัวเอง อย่าเพิ่งเครียดไป วันนี้เราจะมาพูดถึงการเลือกเสื้อเชิ้ตให้เหมาะกับลุค และการแมตช์เสื้อเชิ้ตกับเสื้อผ้าแบบไหนถึงจะออกมาดูดี เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ชายได้ลองแต่งตามได้ไม่ยาก

เริ่มจากการเลือกเสื้อเชิ้ตที่เหมาะกับเราก่อน จริงอยู่ที่บางคนใส่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ๆ โดยเฉพาะ เสื้อเชิ้ตแขนยาวแบบโอเวอร์ไซส์แล้วออกมาดูดีมีสไตล์ ได้กลิ่นอายความเป็นแฟชั่นที่ดูไม่เป็นทางการจนเกินไป แต่นั่นก็อาจจะไม่ใช่แนวของหลายๆ คน เราว่าสิ่งสำคัญกว่าที่ต้องคำนึงถึงเมื่อคิดจะใส่เสื้อเชิ้ตก็คือ ‘ความพอดี’ โดยมี 3 ส่วน ที่ต้องเช็กให้ดี ตามนี้

1.คอและไหล่ เมื่อติดกระดุมครบทุกเม็ดแล้วต้องไม่รัดคอแน่นหรือหลวมจนเกินไป แต่ควรมีพื้นที่พอให้เราสอดนิ้วลงไปได้แล้วไม่รู้สึกอึดอัด ช่วงไหล่ก็เหมือนกัน ถ้าเสื้อเชิ้ตตัวที่เลือกมาใส่ยากแสดงว่าเล็กเกินไป ตรงกันข้ามถ้าใส่แล้วช่วงไหล่ตกและส่วนอื่นดูหลวมเกินไปแสดงว่าใหญ่ไป ควรตัดใจหาตัวที่สวมใส่ง่ายและรอยตะเข็บอยู่ตรงหัวไหล่พอดี

2.ลำตัว ไม่ว่าจะเป็น เสื้อเชิ้ตแขนยาวหรือแขนสั้นที่ใส่แล้วหล่อต้องเข้ารูปพอดี ติดกระดุมแล้วไม่รู้สึกอึดอัด ตอนเอาเสื้อเข้าในกางเกงต้องไม่มีชายเสื้อล้นออกมาให้ดูรุงรัง หรือตอนใส่แบบปล่อยชายชิลล์ๆ ความยาวของชายเสื้อก็ควรเหลืออย่างน้อย 1 นิ้ว หรือยาวพอที่จะทับเข็มขัดได้ครบทุกด้าน

3.แขนเสื้อ ส่วนนี้ถ้าเป็น เสื้อเชิ้ตแขนยาว ผู้ชายทั้งหลาย ควรคำนึงถึงความสบายในการเคลื่อนไหวเป็นหลัก เพราะระหว่างวันเราต้องขยับแขนทำโน่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา เสื้อเชิ้ตแขนยาวที่เหมาะกับเราจึงควรมีช่วงแขนที่ยาวพอดีกับข้อมือ เวลาใส่สูทหรือแจ็กเก็ตทับแล้วปลายแขนควรโผล่ออกมาประมาณครึ่งนิ้ว ใส่แล้วยกแขน งอแขนได้คล่อง แต่ก็ต้องไม่หลวมมากไปจนเปิดโอกาสให้แขนเสื้อพร้อมใจกันมากองอยู่ที่ข้อมือ ส่วนความยาวช่วงแขนของเสื้อเชิ้ตแขนสั้นควรเลยช่วงกลางของต้นแขนลงมาเล็กน้อย

ต่อมาคือการนำเสื้อเชิ้ตตัวเก่งของเรามาใส่ยังไงให้หล่อ เท่ ไม่ซ้ำใคร ซึ่งเราขอยกตัวอย่างการมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อเชิ้ตกับไอเท็มต่างๆ โดยแบ่งง่ายๆ เป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นกับเสื้อแขนยาว

 

GQWhite Short sleeves

1.หล่อสายชิลล์ สบายๆ ด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้น
ข้อดีของเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสำหรับผู้ชายก็คือได้ทั้งความเท่ ดูดี และสบายๆ ในตัวเดียว วันไหนอยากชิลล์ก็จับคู่กับกางเกงขาสั้น รองเท้ารัดส้นหรือจะชิลล์แบบสุดๆ ด้วยรองเท้าแตะก็ยังได้ ที่สำคัญคือลุคนี้เหมาะกับอากาศบ้านเราที่สุดแล้ว แต่ถ้าเป็นหนุ่มวินเทจอาจจะเปลี่ยนท่อนล่างเป็นขายาวก็ได้ ทั้งกางเกงยีนส์ กางเกงสแล็ค กางเกงชิโน หยิบหมวกวินเทจมาแมตช์สักใบเพื่อคอมพลีทลุค หรือจะใส่เสื้อยืดด้านในแล้วสวมทับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นเป็นตัวนอก ใส่คู่กับกางเกงขากระบอก เปลี่ยนกระเป๋าเป็นถุงผ้า ก็จะดูเป็นนิปปอนบอยขึ้นมาในทันที

ถ้าอยากได้ฟอร์มอลลุคสำหรับวันทำงานเสื้อเชิ้ตแขนสั้นก็เอาอยู่ เพียงแค่เลือกโทนสีที่สุภาพหน่อยแล้วจับคู่กับกางเกงสแล็คหรือชิโน ยัดชายเสื้อเข้าในกางเกง สวมรองเท้าหนังเข้าไปแค่นี้ก็ดูหล่อเนี้ยบแล้ว หล่อได้หลายแนวแบบนี้ต้องมีติดตู้ไว้เยอะๆ


GQWhite long sleeve


2.หล่อดูดี สมาร์ท ด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาว
เสื้อเชิ้ตแขนยาว บวกกางเกงขายาว (โดยเฉพาะกางเกงสแล็ค) และรองเท้าคัทชู ถือว่าเป็นเบสิกลุคสำหรับผู้ชายที่แท้จริง เพราะต่อให้คุณชอบแนวไหนพอแต่งแบบนี้ก็ดูดี สมาร์ทกันทุกคน แต่อาจจะมีความเป็นทางการค่อนข้างสูง หนุ่มๆ คนไหนอยากดูสมาร์ทแบบจริงจังน้อยหน่อยแนะนำให้ลองเปลี่ยนจากสแล็คเป็นกางเกงชิโน กางเกงยีนส์ แล้วใส่รองเท้าผ้าใบสีเรียบๆ หรือรองเท้าหนังกลับแทน อาจจะเพิ่มความเท่ด้วยสูทสักตัว แล้วถ้าข้างบนเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวแล้ว แต่อยากให้ข้างล่างเป็นขาสั้นสบายๆ จะรอดไหม? คำตอบคือรอดแน่นอน แต่ลุคนี้รองเท้าควรเป็นผ้าใบเท่ๆ หรือแซนดัลจะดีกว่า

นี่ก็เป็นทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่เรานำมาฝากเพราะอยากเห็นหนุ่มๆ หล่อ ดูดี ซึ่งจะว่าไปเสื้อเชิ้ตนี่ก็ใส่ได้แทบทุกโอกาสจริงๆ แล้วยิ่งผ่านการมิกซ์แอนด์แมตช์ที่ลงตัว อยู่ถูกที่ถูกเวลา ก็สามารถช่วยเสริมให้บุคลิกภาพภายนอกของเราดูดีขึ้นได้อย่างน่าทึ่ง

แสดงความคิดเห็น

×