เราอาจคิดว่าแค่ใส่หน้ากากก็ช่วยลดการรับและแพร่กระจายเชื้อได้แล้ว จะใส่หน้ากากแบบไหนก็คงไม่ต่างกัน แต่ผลวิจัยล่าสุดที่เปิดเผยโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) บ่งชี้ว่า หน้ากากที่ใส่กระชับกว่า สามารถช่วยลดการสัมผัสเชื้อได้ดีกว่าด้วย
นักวิจัยได้ทำการทดลองโดยนำหุ่นมาสวมหน้ากากด้วยวิธีต่างๆ กัน จากนั้นนำไปผ่านการไอจำลองโดยให้หุ่น A เป็นผู้แพร่เชื้อ และหุ่น B เป็นผู้รับเชื้อ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพในการลดการรับเชื้อของการใส่หน้ากากวิธีต่างๆ ดังนี้
-
สวมหน้ากากอนามัย 1 ชิ้นแบบปกติ
-
สวมหน้ากากอนามัย 1 ชิ้นแบบมัดสายคล้องหู
-
สวมหน้ากาก 2 ชั้น (หน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัย)
ผลการทดสอบพบว่า เมื่อทั้งหุ่น A และ B สวมหน้ากากอนามัยแบบปกติ สามารถลดการรับเชื้อได้ 84.3% เมื่อเปลี่ยนมาสวมแบบมัดสายคล้องหู จะลดการสัมผัสเชื้อได้ 95.9% และเมื่อสวมหน้ากาก 2 ชั้น จะลดการสัมผัสเชื้อได้ถึง 96%
นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า หน้ากากอนามัยที่สวมแบบปกติยังมีช่องว่างให้เชื้อโรคเข้ามาได้ โดยเฉพาะบริเวณด้านข้างที่ไม่ได้แนบสนิทไปกับใบหน้า ทำให้ลดโอกาสการรับเชื้อได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการสวมหน้ากาก 2 ชั้น หรือแม้แต่เมื่อเทียบกับการสวมหน้ากากอนามัยโดยมัดสายคล้องหูซึ่งทำให้กระชับหน้ามากขึ้น
หากจะเปลี่ยนมาสวมหน้ากาก 2 ชั้น แนะนำให้ใส่คู่กับหน้ากาก GQ ด้วยดีไซน์ 3 มิติ ที่มาพร้อมโครงลวดบริเวณจมูกสายคล้องหูปรับได้ ทำให้ปรับความกระชับได้ตามต้องการ สวมทับหน้ากากอนามัยได้โดยไม่มีช่องว่าง
นอกจากนี้ หน้ากาก GQ ทุกรุ่น ยังมีคุณสมบัติสะท้อนน้ำ ช่วยกรองละอองน้ำลายจากการไอจามซึ่งอาจเป็นพาหะนำพาเชื้อโรค จะสวมชั้นเดียวหรือ 2 ชั้น ก็ป้องกันได้มากกว่า
ช้อปหน้ากาก GQ คลิก