ด้วยเศรษฐกิจที่เข้าขั้นวิกฤติทั่วโลก ยุคนี้จึงมีอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นบัณฑิตจบใหม่ หรือมนุษย์เงินเดือนที่ตัดสินใจลาออกจากงานเดิมและกำลังมองหางานใหม่ ด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้นนี้เอง หนึ่งในเหตุผลที่จะทำให้คุณได้งานนั้นๆ นอกจากประสบการณ์ ไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ฯลฯ คือการเตรียมตัวให้พร้อมกับคำถามที่จะเจอระหว่างการสัมภาษณ์งาน โดยเฉพาะการถูกสัมภาษณ์งานครั้งแรกทำให้หลายคนเกิดอาการประหม่า ทำตัวไม่ถูก ผู้สัมภาษณ์จึงมองว่าไม่มีการเตรียมความพร้อมที่ดีเพียงพอ ทำให้พลาดโอกาสได้งานไปอย่างน่าเสียดาย มาดู 5 คำถามสัมภาษณ์งาน ยอดฮิตที่คุณต้องเจอ แล้วทำการบ้านล่วงหน้า รับรองว่าผ่านฉลุย
- เล่าเกี่ยวกับตัวคุณให้ฟังคร่าวๆ
คำถามสัมภาษณ์งาน ข้อแรกนี้เป็นคำถามคลาสสิกที่เชื่อได้เลยว่าทุกคนที่ไปสัมภาษณ์งาน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาจบใหม่หรือวัยทำงานที่เปลี่ยนงานมาแล้วต้องเจอ ในข้อนี้คุณควรใช้เวลาตอบเพียง 2-3 นาที โดยตอบให้กระชับ ชัดเจนและได้ใจความที่สุด เริ่มจากแนะนำตัว เล่าประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ว่าคุณเริ่มต้นทำงานที่แรกที่บริษัทไหน หน้าที่รับผิดชอบคืออะไร ไล่เรียงต่อมาจนถึงบริษัทและตำแหน่งงานปัจจุบัน สิ่งที่คุณได้รับจากบริษัทเดิมมีอะไรบ้าง แต่หากคุณเป็นนักศึกษาจบใหม่ ไม่เคยผ่านการฝึกงานหรือทำงานที่ไหนมาก่อน สามารถเล่าถึงกิจกรรมที่เคยทำระหว่างเรียน หรือหากมีประสบการณ์การฝึกงานก็ควรบอกเล่าให้ผู้สัมภาษณ์รู้ด้วย
- คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทหรือองค์กรเราบ้าง ?
คำถามสัมภาษณ์งาน ข้อนี้ผู้สัมภาษณ์หวังจะได้ฟังคำตอบจากคุณว่า เข้าใจในสิ่งที่องค์กรหรือบริษัททำอยู่ ประวัติความเป็นมา วิสัยทัศน์ ภาพลักษณ์และวัฒนธรรมขององค์กร รวมถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งข้อมูลเหล่านี้คุณสามารถหาได้จากในเว็บไซต์ของบริษัทหรือโทรเข้าไปสอบถาม การที่คุณเตรียมตัวหาข้อมูลเบื้องต้นก่อนไปสัมภาษณ์งาน เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าคุณสนใจและมีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้
- ทำไมคุณถึงมาสมัครงานกับเรา ?
คำถามนี้ง่ายมากถ้าคุณเตรียมตัวมาดี มีข้อมูลและเหตุผลสนับสนุนคำตอบนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อถูกเรียกไปสัมภาษณ์งานขณะกำลังทำงานอยู่บริษัทเดิม อาจจะตอบในทำนองที่ว่า ตอนทำงานอยู่ที่บริษัทเก่าได้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนี้ ว่าเปิดโอกาสให้กับพนักงานสามารถแสดงความคิดเห็น พิสูจน์ความสามารถ และอยู่กันแบบพี่-น้อง ทำให้สนใจอยากจะร่วมงาน แต่ถ้าคุณเป็นเด็กจบใหม่ คำถามข้อนี้คงเป็นการสัมภาษณ์งานครั้งแรกที่ดูหนักอึ้ง แต่คงไม่ยากเกินที่จะตอบคำถาม หากเตรียมตัวหาข้อมูลและเหตุผลมาอย่างดี เช่น หากบริษัทเปิดรับเด็กจบใหม่ ก็สามารถตอบได้ทันทีว่าเนื่องจากบริษัทเปิดโอกาสให้กับนักศึกษาจบใหม่ จึงเป็นโอกาสดีเช่นกันที่ตัวคุณจะได้เรียนรู้งานกับผู้มีประสบการณ์ในสายอาชีพนี้ ฯลฯ
- อะไรคือจุดเด่น / จุดอ่อน ของคุณ ?
ในข้อนี้คุณควรพูดจุดเด่นที่ดีที่สุดในตัวคุณ หากสามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานของคุณได้จะดีมากในการสัมภาษณ์งานครั้งแรก หรือในการสัมภาษณ์งานทุกครั้ง ผู้สัมภาษณ์จะได้มองเห็นถึงจุดเด่นของคุณว่ามีประโยชน์ต่อทีมหรือบริษัทและตำแหน่งที่คุณมาสมัคร ส่วนเรื่องจุดอ่อนนั้น คุณควรจะพูดถึงเรื่องที่ตัวเองกำลังพัฒนาหรือกำลังปรับเปลี่ยน และควรบอกถึงผลลัพธ์หลังจากปรับปรุงแล้วด้วย เพื่อแสดงถึงความตั้งใจที่จะพัฒนาความสามารถของคุณ
- งานอดิเรกที่ชอบหรือทำเป็นประจำมีอะไรบ้าง ?
คำถามสัมภาษณ์งานข้อนี้ เป็นคำถามที่ผู้สัมภาษณ์อยากจะรู้อุปนิสัย ทัศนคติ และบุคลิกภาพของคุณ บ่งบอกถึงการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับคนอื่น เพราะชีวิตการทำงานต้องอยู่ร่วมกับคนจำนวนมาก ซึ่งหมายความว่าคุณอาจจะต้องทำงานเป็นทีม ต้องใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น ดังนั้นคำถามสัมภาษณ์งานข้อนี้จึงเป็นตัวชี้วัดว่าคุณเป็นคนแบบไหน อีกนัยหนึ่งผู้สัมภาษณ์อาจเพียงแค่ต้องการดูว่า คุณมีความคิดอ่านที่มองไปทางเดียวกับองค์กรหรือไม่ และบางครั้งเมื่อคุณพูดถึงสิ่งที่ได้รับจากงานอดิเรกนั้น อาจนำไปสู่คำถามต่อไปที่ช่วยให้คุณรีแลกซ์มากขึ้น ซึ่งไม่แน่ว่าคำถามนั้นอาจจะทำให้คุณผ่านการสัมภาษณ์งานครั้งแรกเลยก็เป็นไปได้
นี่คือ 5 คำถามสัมภาษณ์งานที่เรานำมาไกด์ เพื่อให้คุณได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนถึงวันจริง แต่แม้จะเป็นครั้งแรกหรือครั้งไหนๆ ไม่ใช่แค่การเตรียมตัวตอบคำถามให้พร้อมเท่านั้น แต่การแต่งตัวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้ว่าจ้างสนใจ เสื้อผ้าที่ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดีก็มีส่วนช่วยให้บริษัทตัดสินใจที่จะรับเข้าทำงานได้ง่ายขึ้น
รู้แบบนี้แล้วก็เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการไปสัมภาษณ์งานได้เลย
ช้อป GQWhite™ ที่สุดแห่งเสื้อเชิ้ต สำหรับวันสำคัญของคุณ
ความคิดเห็น
fongjmasiu:
Muchas gracias. ?Como puedo iniciar sesion?
22 มีนาคม 2021
Mehmet:
สวัสดี! วันนี้สบายดีไหม? ฉันบริจาคไตเมื่อ 2 ปีก่อนและฉันได้รับค่าจ้าง $ 400,000.00USD ตอนนี้ราคาปัจจุบันคือ $ 450,000.00USD ลองนึกภาพความแตกต่างและผลประโยชน์ที่แนบมาการปลูกถ่ายที่ประสบความสำเร็จรับประกันการจ่ายเงินไม่มีความล่าช้าในการชำระเงินและเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดจะถูกจัดวางโดยผู้ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย
คุณสามารถให้ไตและเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตและครอบครัวของคุณได้ ในกรณีที่คุณสนใจติดต่อแพทย์โดยใช้อีเมลนี้: doktor.michaellarry@gmail.comสวัสดี! วันนี้สบายดีไหม? ฉันบริจาคไตเมื่อ 2 ปีก่อนและฉันได้รับค่าจ้าง $ 400,000.00USD ตอนนี้ราคาปัจจุบันคือ $ 450,000.00USD ลองนึกภาพความแตกต่างและผลประโยชน์ที่แนบมาการปลูกถ่ายที่ประสบความสำเร็จรับประกันการจ่ายเงินไม่มีความล่าช้าในการชำระเงินและเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดจะถูกจัดวางโดยผู้ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย
คุณสามารถให้ไตและเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตและครอบครัวของคุณได้ ในกรณีที่คุณสนใจติดต่อแพทย์โดยใช้อีเมลนี้: doktor.michaellarry@gmail.com
10 มีนาคม 2021