ช่วงหน้าร้อนแดดแรงของทุกปี ชวนให้หลายคนคิดถึงการแต่งตัวไปเที่ยวพักผ่อนกินลมชมวิวริมทะเล แน่นอนว่าหนึ่งในไอเท็มสุดฮอตคงหนีไม่พ้นเสื้อฮาวาย อาจเป็นเพราะสีสันสดๆ และเนื้อผ้าบางใส่สบายที่ไปด้วยกันได้ดีกับหน้าร้อน แต่ไม่ใช่แค่ในตอนนี้... ใครว่าเสื้อฮาวายต้องใส่แค่ช่วงซัมเมอร์ ? เพราะถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า เดี๋ยวนี้เราสามารถพบเห็นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ งานอีเว้นต์ ย่านฮิปๆ ที่เหล่าวัยรุ่นหรือคนแฟชั่นรวมตัวกัน หรือแม้แต่เป็นหนึ่งในธีมงานวันเกิด งานปาร์ตี้ก็มีให้เห็นมาแล้ว ! วันนี้เราเลยจะพาไปหาคำตอบกันว่า อะไรทำให้ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นขนาดนี้

 

history-of-hawaiian

History of Hawaiian

เหตุผลข้อแรกที่ทำให้เสื้อฮาวายได้รับความนิยมก็คือ ประวัติความเป็นมาของเสื้อ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Aloha Shirt” โดยมีจุดเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1930 ณ รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ในยุคแรกๆ ถูกตัดเย็บด้วยกิโมโนของญี่ปุ่น ลวดลายสวยงาม น้ำหนักเบา เน้นสวมใส่สบายสไตล์ชาวตะวันตก จากนั้นในปี 1935 Mr. Kiochiro Miyamoto เจ้าของห้องเสื้อ Musa-shiya The Shirtmaker เริ่มตัดเย็บแบบ Tailor Made และเพิ่มจุดดึงสายตาของเสื้อด้วยลายพริ้นต์สีสันสดใสลงบนตัวเสื้อ เรียกว่าเป็นผู้บุกเบิกเจ้าแรกและเจ้าเดียวบนเกาะฮาวาย ที่ผลิตและจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จนทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก กระทั่งปี 1947 เกาะฮาวายได้ประกาศให้ผู้คนบนเกาะร่วมกันใส่เสื้อทุกวันศุกร์ จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่เรียกว่า “Aloha Friday” และต่อมามีนักธุรกิจชาวจีนชื่อ Ellery Chun จับมือกับบริษัท King-Smith Clothiers เปิดตัวแบรนด์ภายใต้ชื่อ ‘Aloha Shirt’ ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อฮาวายแบรนด์แรกของโลก ถือลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ! ไม่นานเสื้อฮาวายก็ได้ปรากฏตัวตามสื่อต่างๆ ทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ วงดนตรีในตำนาน หรือแม้แต่ในกลุ่มฮิปปีก็ไม่พลาดสีสันสดใสที่เป็นเหมือนเสน่ห์ของเสื้อฮาวาย อาทิ Montgomery Clift นักแสดงหนุ่มชื่อดังในยุค 1953 ในหนังเรื่อง From Here to Eternity และที่พีคสุด ๆ คือไอดอลในตำนานของคนเกือบทุกยุค Elvis Presley เขาได้สวมใส่เสื้อฮาวายบนหน้าปกอัลบั้ม Blue Hawaii ในปี 1962 นั่นเอง

Texture

ข้อที่สองที่ทำให้เสื้อลายดอกได้รับความนิยมจากอดีตจนถึงปัจจุบันก็คือ เรื่องของเนื้อผ้าและวัสดุในการตัดเย็บ เรากำลังพูดถึง ‘กระดุม’ ในสมัยก่อนนั้นกระดุมถูกผลิตขึ้นจากวัสดุธรรมชาติอย่าง กะลามะพร้าวขัดเงิน แร่เงิน หรือกระดุมหอยมุก ส่วนเนื้อผ้าที่นิยมนำมาใช้ในการตัดเย็บ สามารถแบ่งออกได้ 3 ชนิด ดังนี้

1.ผ้าไหม
หรือ กิโมโน อย่างที่เกริ่นไปว่าเป็นผ้าชนิดแรกที่ถูกนำมาตัดเย็บเสื้อฮาวายในอดีต ขึ้นชื่อว่าผ้าไหมแน่นอนว่าจุดเด่นคือ ความบางเบา สวมใส่สบาย คงทน ความสวยงามของสีและลวดลายดั้งเดิมเฉพาะตัว ทำให้ราคาเสื้อลายดอกผู้ชายที่ทำจากผ้าไหมมีราคาที่สูงลิบลิ่ว

2.ผ้าเรยอน
ผ้าเรยอน คือ ผ้าใยสังเคราะห์จากเซลลูโลสเป็นหลัก ได้รับความนิยมในช่วงปี 1920 - 1950 เป็นเหมือนการถ่ายทอดงานศิลปะจากยุค Mid - Century โดยเน้นรูปทรงเรขาคณิตและลายเส้นลงบนตัวผ้า ความพิเศษของผ้าเรยอนคือช่วยระบายความร้อนได้ดี ใส่สบาย มีความเงางามและคงทนแบบที่เสื้อยุคนี้เทียบไม่ติด แต่แม้จะได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบันก็นับว่ามีราคาที่สูงอยู่ดี

3.ผ้าใยสังเคราะห์

หลังจากที่เสื้อฮาวายได้รับความนิยมอย่างล้นหลามไปทั่วโลก แบรนด์เสื้อผ้าต่าง ๆ จึงเริ่มลดทอนเนื้อผ้าเพื่อลดต้นทุนการผลิต ผ้าใยสังเคราะห์จึงเป็นคำตอบที่ดี โดยจะเห็นเสื้อฮาวายในรูปแบบของผ้าฝ้ายสังเคราะห์ หรือผ้าโพลีเอสเตอร์ ซึ่งกลายเป็นผ้าที่นิยมใช้ตัดเย็บจนถึงปัจจุบัน

 

Mix & Match

อย่างที่บอกว่ายุคนี้เราจะเห็นเสื้อลายดอกถูกนำมาใส่เป็นแฟชั่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลายเสื้อ สีสันหรือการมิกซ์แอนด์แมตช์ต่าง ๆ ที่พัฒนาตามยุคสมัย ทั้งการใส่แบบพับแขนเสื้อ หรือจะนำมาใส่เป็นเสื้อคลุมทับเสื้อยืดสีขาว สีดำ เสื้อกล้ามก็ดูเท่ไม่เบา แค่หยิบกางเกงสแล็คผู้ชาย กางเกงชิโน กางเกงยีนส์ ก็สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อฮาวายได้อย่างลงตัว นี่จึงเป็นจุดเด่นอีกข้อที่ทำให้เสื้อลายดอกผู้ชายไม่ตกเทรนด์ ! 

 

yellow-orange

Pattern

เรื่องสีและลายพริ้นต์ก็ถือเป็นหัวใจสำคัญของเสื้อลายดอกเช่นกัน ซึ่งโทนสีที่นิยมใส่กันจะเป็นโทนสีกลางๆ อย่างเหลืองอ่อน ฟ้าอ่อน แต่ก็มีเสื้อลายดอกที่มีสีสันสดใสหรือสีนีออนอย่าง สีส้ม สีชมพู ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน นั่นเพราะสีสันจะช่วยคลายความร้อนได้ดีกว่าสีโทนเข้ม และลายที่เรามักเห็นบ่อย ๆ คือ ต้นมะพร้าว ดอกไม้นานาพรรณของเกาะฮาวาย กระดาน Surf นกแก้ว รูปกราฟิกวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะ ฯลฯ

ด้วยเหตุผล 4 ข้อนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแฟชั่นเสื้อฮาวายถึงไม่เคยหลุดออกจากสารบบของโลกแฟชั่น นี่ยังไม่นับคนไทยบ้านเราที่นิยมใส่กันทั่วบ้านทั่วเมือง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็ถูกหยิบมาใส่เล่นน้ำกันแบบที่เรียกว่า ใครไม่ใส่ถือว่าพลาด

 

blue-berry

 

 แต่ถ้าหนุ่มๆ คนไหนยังไม่มีเสื้อฮาวายในคอลเลกชันเสื้อผ้าของตัวเองแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำเสื้อลายดอกจาก GQ ที่มีเนื้อผ้า ลวยลาย สีสันและรูปทรงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ทางแบรนด์ตั้งใจออกแบบเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และเทศกาลแห่งความสุขของคนไทยเราได้เป็นอย่างดี แถมมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ง่าย เหมาะกับสภาพอากาศของบ้านเราที่สุด รับรองว่าลายพริ้นต์ใหม่ๆ สีสันสดใส จะช่วยให้คุณสนุกขึ้นมากกว่าในทุกหน้าร้อนที่เคยผ่านมา


แสดงความคิดเห็น

×